จัดทำบทความโดย นางสาวนริศรา อนุสรณ์เวชยันต์ เลขทะเบียน 5101103152
สบน. การันตี กนง.ขึ้นดอกเบี้ย ไม่กระทบลงทุน ชี้ อัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตร ระยะ 1 วัน ขยับขึ้น ส่วนโครงการไทยเข้มแข็งไม่กระทบมากนัก แต่เป็นห่วงรากหญ้าจะรับเคราะห์ในการแบกรับภาระดอกเบี้ย หลัง ศก.ไทยขยายตัวไม่สมดุล
นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุลผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่าการที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย0.25% ทำให้ดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตร (อาร์/พี) ระยะ 1 วันขยับขึ้นไปอยู่ที่ 1.50% คงมีผลกระทบทำให้อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงในตลาดพันธบัตรระยะสั้นขยับขึ้นไปบ้าง แต่ดอกเบี้ยระยะยาวคงไม่ค่อยได้รับผลกระทบนัก ดังนั้น การกู้เงินของรัฐบาลเพื่อนำมาใช้ลงทุนในโครงการไทยเข้มแข็งของภาครัฐจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะส่วนใหญ่สบน. จะมีการรีไฟแนนซ์ไปเป็นเงินกู้ระยะยาวอยู่ตลอดเวลา
"ถึงขึ้นดอกเบี้ยก็ยังต่ำอยู่อีกนาน เพราะดอกเบี้ยระยะยาวต้องขึ้นกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและถ้าการลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชนยังต่ำอยู่ ก็คงขยับขึ้นยากเพราะถ้าขึ้นเร็วไปก็จะเป็นผลร้ายกับเศรษฐกิจเอง แล้วปัจจุบันยุโรปอเมริกาก็ยังไม่ฟื้น การที่เอเชียจะฟื้นฝ่ายเดียวคงไม่ได้ เพราะถ้านักลงทุนจะลงทุนเต็มที่คงต้องรออเมริกา ยุโรปฟื้นด้วย รวมถึงการลงทุนในไทย ก็ต้องให้การเมืองดีด้วย" นายจักรกฤศฏิ์ กล่าว
นายจักรกฤศฏิ์ กล่าวว่า การขึ้นดอกเบี้ยนโยบายดังกล่าว ผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคงเป็นประชาชนระดับล่าง เพราะคนกลุ่มนี้ยังมีปัญหาเรื่องค่าครองชีพที่ยังต่ำอยู่ พอมีการขึ้นดอกเบี้ยก็จะได้รับผลกระทบทันที ส่วนคนระดับบนคงไม่ค่อยได้รับผลกระทบ
ผู้อำนวยการ สบน. ตั้งข้อสังเกตว่า ช่วงที่ผ่านมาผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)ของไทยที่ขยายตัวดีขึ้นมานั้น ส่วนใหญ่มาจากภาคการส่งออกเป็นด้านหลักและขยายตัวในบางอุตสาหกรรมเท่านั้น เพราะคนระดับล่างส่วนใหญ่ก็ยังมีปัญหาปากท้อง แม้ว่าจีดีพีจะโตขึ้น ดังนั้น การขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อหรือระดับราคาสินค้า ก็อาจเป็นการสกัดเงินเฟ้อที่เกิดจากบางภาคอุตสาหกรรม แต่กลับส่งผลกระทบกับคนระดับล่างที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ
ที่มาโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 กรกฎาคม 2553 15:20 น.
คำถามชวนคิด?
1.บุคคลที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการขึ้นดอกเบี้ยอยู่ในระดับใด
2.ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)ของไทยที่ขยายตัวดีขึ้นเนื่องมาจากสาเหตุอะไร
3.การกู้เงินของรัฐบาลเพื่อนำมาใช้ลงทุนในโครงการไทยเข้มแข็งของภาครัฐจะได้รับผลกระทบจากเหตุการนี้หรือไม่
153UtccBF302g03
การจัดการทางการเงิน กลุ่มที่ 3
วันเสาร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
วันเสาร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
'ประสาร' ชี้ประชาชนต้องเข้าถึงแหล่งเงินทุน
จัดทำโดย นางสาว อภิญญา พันธ์งาม เลขทะเบียน 5101103148
เรื่อง 'ประสาร' เผยภารกิจผู้ว่าการ ธปท.ประชาชนต้องเข้าถึงแหล่งเงินทุนอย่างแท้จริง และสถาบันการเงินต้องคำนึงถึงจริยธรรมด้านกลไกตลาด
ที่มา : http://www.voicetv.co.th/content/16975/ประสารชี้ประชาชนต้องเข้าถึงแหล่งเงินทุน
Content by VoiceTV 7 กรกฎาคม 2553 เวลา 13:52 น.
คำถามชวนคิด ?
1. ธปท.คาดว่าจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นเดือนอะไร และร้อยละเท่าไหร่ ?
2. สิ่งที่นายประสารเห็นว่าสถาบันการเงินต้องคำนึงถึง มีกี่ด้าน และด้านอะไรบ้าง ?
3. บสย ย่อมาจากคำว่าอะไร ?
จัดทำโดย นางสาว อภิญญา พันธ์งาม เลขทะเบียน 5101103148
เรื่อง 'ประสาร' เผยภารกิจผู้ว่าการ ธปท.ประชาชนต้องเข้าถึงแหล่งเงินทุนอย่างแท้จริง และสถาบันการเงินต้องคำนึงถึงจริยธรรมด้านกลไกตลาด
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทยและประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวหลังนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมอบภารกิจหลังได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่าต้องการให้ประชาชนทุกภาคส่วนเข้าถึงแหล่งเงินทุนในราคาและคุณภาพที่เหมาะสม โดยตนมีหน้าที่ดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจซึ่งต้องพิจารณาจากปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ รวมทั้งเรื่องการจ้างงานและการดูแลสถาบันการเงิน โดยยอมรับว่า การปรับดอกเบี้ยเข้าสู่ภาวะปกติในเวลานี้เป็นเรื่องท้าทายสำหรับ ธปท. โดยคาดว่าเดือนสิงหาคมจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ก่อนที่ดอกเบี้ยนโยบายจะปรับขึ้นไปอยู่ที่ร้อยละ 2 ในปลายปีนี้
โดยนายประสารเห็นว่า สถาบันการเงินต้องคำนึงถึง 3 ด้าน คือ ราคา กลไลตลาดและจริยธรรมในด้านกลไกตลาด โดยขณะนี้เริ่มมีคำถามต่อธนาคารพาณิชย์ว่าส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (net interest margin : NIM) สูงไปหรือไม่ ซึ่งหากเทียบกับประเทศต่างๆขณะนี้พบว่า ประเทศไทยมีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิสูงกว่าประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่หากเทียบกับประเทศด้อยพัฒนา ประเทศไทยมีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิต่ำกว่า สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากประเทศที่พัฒนาแล้วมีรายได้ค่าธรรมเนียมมาก สามารถนำรายได้ส่วนนี้ชดเชยส่วนต่างดอกเบี้ยที่ต่ำได้
อย่างไรก็ตาม การพูดถึงส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิของแต่ละกลุ่มลูกค้าแตกต่างกัน โดยกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่ ธนาคารพาณิชย์ได้รับส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิต่ำมากหรือบางกรณีเข้าข่ายขาดทุน เนื่องจากลูกค้าขนาดใหญ่มีทางเลือกมาก สถาบันการเงินจึงแข่งขันกันสูง ขณะที่ลูกค้าที่มีเครดิตน้อยมักถูกมองว่ามีความเสี่ยงจากเครดิต จึงถูกคิดอัตราดอกเบี้ยสูง ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิจึงสูงไปด้วย ทั้งนี้ ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิของธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบในปี 2552 เฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 3.2 - 3.3
นอกจากนี้ยังกล่าวเพิ่มว่า กลไกของรัฐบาล เช่น บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.) ถ้าใช้เป็นส่วนผสมที่เหมาะสมก็จะทำให้ประชาชนทุกภาคส่วนเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ โดยสถาบันการเงินต้องคำนึงถึงจริยธรรม มีการแข่งขันที่เป็นธรรมและสร้างความน่าเชื่อถือให้สูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของกฎหมาย เนื่องจากกฎหมายไม่สามารถครอบคลุมกำกับการแข่งขันตามกลไกตลาดได้ทั้งหมด แม้กฎหมายมีประโยชน์ในการบังคับใช้แต่ก็มีปัญหาเรื่องประสิทธิภาพ อย่างตลาดการเงินของไทยกฎเกณฑ์ดีแต่กลไกการบังคับใช้ยังอ่อนอยู่
ที่มา : http://www.voicetv.co.th/content/16975/ประสารชี้ประชาชนต้องเข้าถึงแหล่งเงินทุน
Content by VoiceTV 7 กรกฎาคม 2553 เวลา 13:52 น.
คำถามชวนคิด ?
1. ธปท.คาดว่าจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นเดือนอะไร และร้อยละเท่าไหร่ ?
2. สิ่งที่นายประสารเห็นว่าสถาบันการเงินต้องคำนึงถึง มีกี่ด้าน และด้านอะไรบ้าง ?
3. บสย ย่อมาจากคำว่าอะไร ?
วันเสาร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
เอ็กซิมแบงก์มั่นใจแผนปล่อยกู้ สิ้นปีทำยอดทะลุเป้า6หมื่นล้าน (อ่านต่อ)
จัดทำโดย นางสาวธนิษฐา จุ้ยนุ่ม เลขทะเบียน 5101103123
เรื่อง เอ็กซิมแบงก์มั่นใจแผนปล่อยกู้ สิ้นปีทำยอดทะลุเป้า6หมื่นล้าน
นายอภิชัย บุญธีรวร กรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANk) เปิดเผยว่ายอดสินเชื่อของธนาคาร ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 5.6 หมื่นล้านบาทจากเป้าทั้งปี 2553 ที่ระดับ 6 หมื่นล้านบาท นับว่าสินเชื่อเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 5.2 หมื่นล้านบาท ส่วนการชำระหนี้ค่อนข้างดีขึ้น ปัจจุบันมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้( เอ็นพีแอล )อยู่ที่ 4.7 พันล้านบาทจากปีก่อน 1.4 หมื่นล้านบาท หรือลดลง 6% จากเอ็นพีแอล 14% เป็น 8% โดยคาดว่าใน 1-2 ปี ข้างหน้าเอ็นพีแอลจะลงไปอยู่ที่ระดับ 3-4% แน่นอน
“แต่สิ่งที่ยังกังวลอยู่คือ ภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯและยุโรป เนื่องจากยังอยู่ในช่วงของการฟื้นตัว ซึ่งเป็นไปแบบช้าๆ ยังมีความเปราะบางให้เห็นอยู่ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาได้มีการประชุมกลุ่มผู้นำ G20 ที่ประเทศแคนาดา มีมติเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดย ให้ประเทศสมาชิกที่เป็นประเทศพัฒนาแล้วลดภาระการใช้จ่ายทางการคลัง หรือเรียกกันว่า นโยบายรัดเข็มขัด ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของเราแน่อน ทั้งด้านการลงทุน ภาคการผลิตสินค้าที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบมากคือ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เพราะจัดเป็นสินค้าที่ฟุ่มเฟือย" นายอภิชัย กล่าว
จากความกังวลดังกล่าวธนาคารจึงได้เปิดให้บริการ "อาเซียนบวก 6 รับซื้อตั๋วแถมประกัน" แก่ผู้ส่งออกไทยในตลาดอาเซียนและอีก 6 ประเทศ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ เพื่อกระตุ้นการเติบโตของภาคส่งออกไทยในตลาดการค้าเสรีของกรอบอาเซียนและอีก 6 ประเทศที่มีศักยภาพในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก อีกทั้งเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ส่งออกไทยได้เปิดตลาดใหม่
บริการดังกล่าวจะให้สินเชื่อ ด้วยการรับซื้อตั๋วส่งออก พร้อมบริการประกันการส่งออกฟรี ซึ่งคุ้มครองความเสี่ยง กรณีผู้ซื้อและธนาคารของผู้ซื้อล้มละลาย รวมทั้งความเสี่ยงทางการเมืองในประเทศผู้ซื้อ เช่น การควบคุมการโอนเงินมายังประเทศไทย การเพิกถอนใบอนุญาตนำเข้า ห้ามนำเข้า สงคราม จลาจล ปฏิวัติ และรัฐประหาร ธนาคารจะชดเชยความเสียหาย 50% ของมูลค่าตั๋วส่งออกที่รับซื้อ ซึ่งมูลค่าเสียหายรวมไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อผู้ส่งออกหนึ่งราย สินเชื่อดังกล่าวจะมีผลตั้งแต่บัดนี้จนถึงเดือนกรกฎาคม 2554
มูลค่าการค้ารวมในอาเซียนบวก 6มีถึง 6.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1 ใน 4 ของการค้าโลก ซึ่งมีจำนวนผู้บริโภค 3,296 ล้านราย หรือ 48.5% ของประชากรโลก สินค้าส่งออกสำคัญของไทยในตลาดอาเซียนบวก 6 ปี 2552 ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ รถยนต์ น้ำมันสำเร็จรูป แผงวงจรไฟฟ้า และเคมีภัณฑ์
ที่มา : ข่าวหุ้น-การเงิน หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- พุธที่ 30 มิถุนายน 2553 16:56:27 น.
คำถามชวนคิด?
1.ความหมายของสินค้าฟุ่มเฟือยคือ
2.สินค้าประเภทใดที่ไทยทำการส่งออกมากที่สุดในปี 53
3.การใช้นโยบายรัดเข็มขัดในต่างประเทศ ส่งผลกับไทยหรือไม่ อย่างไร
วันเสาร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2553
AP เสนอขายหุ้นกู้ 1 พันลบ.!
จัดทำบทความโดย นางสาวปัทมาภรณ์ ศิริพฤฒิกุล เลขทะเบียน 5101103163
เรื่อง AP เสนอขายหุ้นกู้ 1 พันลบ.อายุ 3 ปี 6เดือน ดบ.3.50% เปิดจอง 5-16 ก.ค.
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 26 มิถุนายน 2553 14:26:43 น.
ข้อมูลไฟลิ่งจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ระบุว่า บมจ. เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ (AP) เสนอขายหุ้นกู้ มูลค่า 1 พันล้านบาท อายุ 3 ปี 6 เดือน (วันครบกำหนดไถ่ถอน 19 ม.ค.57) โดยกำหนดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.50%ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน
ทั้งนี้จะเสนอขายแก่ผู้ลงทุนทั่วไป หรือ ผู้ลงทุนสถาบัน ระยะเวลาจองซื้อระหว่างวันที่ 5-16 ก.ค. 53 ผ่านธ.ไทยพาณิชย์ ซึ่งเป็นผุ้จัดการการจำหน่ายหุ้นกู้
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ ระดับ BBB+/Stable
วัตถุประสงค์การออกหุ้นกู้ครั้งนี้ เพื่อนำเงินไปชำระคืนหุ้นกุ้ที่ถึงกำหนดชำระจำนวน 1.5 พันล้านบาท
ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 26 มิถุนายน 2553 14:26:43 น.
คำถามชวนคิด ?
1.หุ้นกู้ หมายถึง (อธิบายมาพอสังเขป)
2.บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ ระดับ BBB+/Stable หมายความว่า
3.ความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในการลงทุนมีหรือไม่ อย่างไร
เรื่อง AP เสนอขายหุ้นกู้ 1 พันลบ.อายุ 3 ปี 6เดือน ดบ.3.50% เปิดจอง 5-16 ก.ค.
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 26 มิถุนายน 2553 14:26:43 น.
ข้อมูลไฟลิ่งจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ระบุว่า บมจ. เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ (AP) เสนอขายหุ้นกู้ มูลค่า 1 พันล้านบาท อายุ 3 ปี 6 เดือน (วันครบกำหนดไถ่ถอน 19 ม.ค.57) โดยกำหนดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.50%ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน
ทั้งนี้จะเสนอขายแก่ผู้ลงทุนทั่วไป หรือ ผู้ลงทุนสถาบัน ระยะเวลาจองซื้อระหว่างวันที่ 5-16 ก.ค. 53 ผ่านธ.ไทยพาณิชย์ ซึ่งเป็นผุ้จัดการการจำหน่ายหุ้นกู้
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ ระดับ BBB+/Stable
วัตถุประสงค์การออกหุ้นกู้ครั้งนี้ เพื่อนำเงินไปชำระคืนหุ้นกุ้ที่ถึงกำหนดชำระจำนวน 1.5 พันล้านบาท
ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 26 มิถุนายน 2553 14:26:43 น.
คำถามชวนคิด ?
1.หุ้นกู้ หมายถึง (อธิบายมาพอสังเขป)
2.บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ ระดับ BBB+/Stable หมายความว่า
3.ความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในการลงทุนมีหรือไม่ อย่างไร
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)